วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


ร็อบซง จี โซซา

      หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรบินยู หรือ โรบินโญ นักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล เกิดที่เมืองเซาวีเซนตี รัฐเซาเปาลู เขาเคยเป็นผู้เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด

                          

      โรบินโญ่ หรือที่มีชื่อเต็มว่า “ร็อบสัน เดอ ซัวซ่า” เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม 1984 เป็นนักเตะชาวบราซิเลี่ยน ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ สโมสร “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยก่อนที่เขาจะมาโด่งดังเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงได้แบบปัจจุบันนี้ โรบินโญ่ เกิดใน ปาร์กัว บิตารู ซึ่งเป็นย่านคนจนในเมือง ซาน บิเซนเต้ ในประเทศ บราซิล อย่างไรก็ตาม ณ สถานที่นี้ ก็ได้เป็นจุดกำเนิดของการเล่นฟุตบอลในช่วงต้นของชีวิตของโรบินโญ่ อีกด้วย เส้นทางการค้าแข้งของ โรบินโญ่ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เมื่อเขาได้เซ็นสัญญากับทีมไบร่า มาร์ ซึ่งเป็นทีมท้องถิ่นในรัฐเซา เปาโล และเพียงแค่ปีแรกเขาและเพื่อนร่วมทีมก็สามารถคว้าแชมป์ได้ทันที และเจ้าตัวเริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในประเทศบ้านเกิดตอนที่อายุได้เพียง 9 ขวบ เมื่อถล่มประตูได้มากถึง 73 ประตูให้กับปอร์ตัวริออส ซึ่งทีมเป็นฟุตซอล เมื่อปี 1993 ก่อนที่ ซานโต๊ส ทีมดังของลีกแซมบ้า จะจับเขาเซ็นสัญญาในฐานะนักเตะเยาวชน ที่ตอนนั้นมีตำนานลูกหนังอย่าง "ไข่มุกดำ" เปเล่ เป็นคนดูแลอยู่

                                robinho

อาชีพนักฟุตบอล

ปี 2002 โรบินโญ่ ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 18 ปี ได้เซ็นสัญญาเป็นักเตะอาชีพครั้งแรกกับ สโมสร ซานโต๊ส โดยเขาลงเล่นไปทั้งสิ้น 24 นัด และทำได้ 9 ประตู ในฤดูกาลนั้น ก่อนที่จะช่วยให้ทีมเป็นแชมป์ลีก (Campeonato Brasileiro)ได้ด้วย ขณะที่ ถัดมาในปี 2003 โรบินโญ่ ได้ลงเล่นมากขึ้นและได้รับการยอมรับว่าเป็นนักเตะตัวหลักของทีมหลังจากลงสนามทั้งหมด 32 นัด ก่อนที่จะมาดังเปรี้ยงปร้างในฤดูกาลถัดมา เมื่อซัลโวได้ถึง 21 ประตูจากการลงสนามในลีก 37 นัด ซึ่งทำให้ ซานโต๊ส คว้าแชมป์ลีกไปครองได้อีกสมัย

                                        robinho
ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงดังกล่าวทำให้หลายทีมชั้นนำในยุโรปหวังว่าจะเซ็นสัญญากับเขา แต่ต้นสังกัดก็ไม่ยอมปล่อยเนื่องจากต้องการให้อยู่เป็นกำลังสำคัญของทีมต่อไป อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2004-2005 โรบินโญ่ ก็เผชิญปัญหาถาดโถมเข้ามาในชีวิตเมื่อมารดาบังเกิดเกล้าของเขาถูกลักพาตัวไป ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวภายหลัง 6 สัปดาห์ถัดมา หลังจากมีการยอมจ่ายค่าไถ่ตามที่กลุ่มโจรเรียกร้อง 
นอกจากนั้น ฟอร์มการเล่นของโรบินโญ่ ก็ตกอย่างหนัก เมื่อยิงได้เพียง 4 ประตู ในการลงสนาม 8 นัดในลีก เมื่อต้นสังกัดเริ่มสังเกตดูจากผลงานและเห็นว่านักเตะเริ่มไม่มีกะจิตกะใจอยากอยู่ต่อ ทำให้ ซานโต๊ส จึงตัดสินใจยอมปล่อยศูนย์หน้าจอมเทคนิคออกจากทีม หลังจากที่ได้ข้อเสนอจากเรอัล มาดริด เป็นเงินถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือคิดเป็นเงินราว 1,200 ล้านบาท) เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2005

2005-2007 : เรอัล มาดริด 
โรบินโญ่ ลงเล่นเกมลา ลีกา สเปน ครั้งแรกในวันที่ 28 สิงหาคม 2007 ในเกมที่เอาชนะ คาร์ดิซ 2-1 โดยเขาถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 65 แทนที่ของ โธมัส กราเวอร์เซ่น อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลแรก ของเขาถือว่าล้มเหลว เพราะลงสนามในลีกถึง 37 นัด แต่กลับทำได้แค่ 8 ประตู ซึ่งแน่นอนว่าไม่สมกับความคาดหวังของกองเชียร์ในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ที่หวังว่าจะเห็นลีลาลากเลื้อยอันแพรวพราวและการพังประตูแบบมหัศจรรย์อย่างที่เจ้าตัวเคยทำได้สมัยค้าแข้งในแดนแซมบ้า

robinho

ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2006/07 แฟนบอลราชันชุดขาว ก็กลับมาตั้งความหวังอีกครั้งว่า โรบินโญ่ จะคืนฟอร์มเก่งได้เหมือนกับที่เขาเล่นให้ทีมชาติบราซิลในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน แต่ทุกอย่างกลับไม่ง่ายเหมือนที่คิด หลังจากที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ เข้ามาเป็นนายใหญ่ของทีมกาลาคติกอส
อย่างที่รู้กันดีว่ากุนซือชาวอิตาเลียนเน้นเกมรับเป็นหลัก และนั่นก็ทำให้ โรบินโญ่ ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนม้านั่งสำรอง แต่หลังจากช่วงพักเบรกฤดูหนาวแล้ว หัวหอกชาวบราซิเลียน ก็เริ่มกลับมาเล่นได้อย่างเข้าฝักเมื่อได้รับโอกาสจาก คาเปลโล่ ก่อนจะช่วยให้ราชันชุดขาว ผงาดคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ4 ปี และยังเป็นครั้งที่3 ในชีวิตค้าแข้งของเขา ก่อนที่ล่าสุดในฤดูกาล 2007-2008 โรบินโญ่ จะยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำไป 11 ประตู และส่งบอลให้เพื่อนยิงอีก 14 ครั้ง พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกาสมัยที่ 31 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่แบบไร้คู่แข่ง
ทีมชาติบราซิล
โรบินโญ่ เริ่มติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ครั้งแรกในเกม คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ปี 2003 ซึ่ง บราซิล ชนะ เม็กซิโก 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมกับคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เขาก็เคยเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เยาวชนชุด ยู-17 ไปครองด้วย


ronalbinho

จากนั้น โรบินโญ่ ก็ลงสนามให้กับทีมบราซิลอย่างต่อเนื่องรวมถึงในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศ เยอรมัน ด้วย อย่างไรก็ตาม โรบินโญ่ ก็ติดทีมไปในฐานะตัวสำรองและยิงประตูไม่ได้เลย แต่ในที่สุดใน ศึกโคปา อเมริกา ปี 2007 ที่เวเนซุเอล่า โรบินโญ่ ก็พัฒนาฝีเท้าจนสามารถขึ้นมาเป็น 1 ใน 11 ตัวจริงของทีมได้สำเร็จ และเขาก็โชว์ฟอร์มได้สมราคา เมื่อเขาเป็นผู้ยิง 4 ประตูให้กับทีมในรอบแบ่งกลุ่ม  โดยเป็นผู้แฮตทริต ในนัดที่ถล่ม ชิลี 4-0  ก่อนที่จะมายิงจุดโทษเฉือน ชนะ เอกวาดอร์ 1-0 ตามลำดับ
เข้าสู่รอบน็อกเอ้าต์ โรบินโญ่ ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง หลังจัดการเหมาสองประตูในเกมที่ถล่ม ชิลี 6-1 ก่อนที่จะมีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติบราซิล เอาชนะเต็งจ๋าอย่าง อาร์เจนตินา ในรอบชิงชนะเลิศ ไปแบบเหลือเชื่อ 3-0 ซึ่งคงจะไม่ผิดนักหากจะบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ โรบินโญ่ ในนามทีมชาติ เพราะเขาโชว์ฟอร์มได้เยี่ยมมาตลอดจนคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครองแบบไร้ข้อกังขา หลังทำไปถึง 6 ประตูจนทำให้ควบรางวัลดาวซัลโวไปครองด้วย และสำหรับในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซน อเมริกา แน่นอน ว่า โรบินโญ่ ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีต่อไปเช่นเดิม
ณ ปัจจุบัน โรบินโญ่ ติดทีมชาติชุดลุยศึกคอนเฟดเดเรชั่นคัพ ซึ่งทำไปได้ 1 ประตูและยังติดชุดทีมชาติชุดคัดฟุตบอลโลก อีกด้วย
เกียรติประวัติที่ได้รับ
Campeonato Brasileiro : 2002, 2004
Bola de Ouro : 2004
FIFA Confederations Cup : 2005
Copa America : 2007
La Liga : (2) 2006/07 , 2007/08


แหล่งที่มา